การจะทำกระเป๋าหนังเทียมที่มีคุณภาพนั้น สิ่งสำคัญคือการเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าที่ได้มาตรฐาน โดยมีปัจจัยมากมายที่ต้องพิจารณา เพราะเนื่องจากโรงงานที่จะผลิตที่มีคุณภาพนั้นจำเป็นต้องพิถีพิถันเลือก เพื่อให้การลงทุนของเราไม่เสียเปล่า โดยแนวทางการตัดสินใจในการเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าสามารถสังเกตและเลือกได้โดยพิจารณาตามข้อต่อไปนี้
แนวทางในการเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าเพื่อผลิตกระเป๋าหนังเทียมที่มีคุณภาพ



- เป้าหมายในการผลิต ควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าด้านใด ผลิตจำนวนกี่ชิ้น ตั้งราคาต่อชิ้น เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในทุนที่ตั้งไว้
- เลือกโรงงานที่น่าเชื่อถือ ควรสอบถามขั้นการผลิตอย่างละเอียดเพื่อให้สามารถเข้าใจถึงวิธีการของโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าอย่างถูกต้อง ว่ามีกระบวนการทำที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ มีลูกค้ารีวิวดีหรือไม่ รวมไปถึงการส่งสินค้าที่ผ่าน QC ได้อย่างตรงต่อเวลา ราคาในการผลิตไม่สูงจนเกินไป
- ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ควรสอบถามให้แน่ใจว่า โรงงานผลิตกระเป๋าที่เราต้องการให้ผลิตกระเป๋าหนังเทียมนั้น มีสต๊อกของหนังเทียมที่มีคุณภาพเพียงพอหรือไม่ หนังเทียมมีความเงา ผิวสัมผัสดี เหนียวและแข็งแรงเพียงพอต่อการผลิตแค่ไหน
- ตรวจสอบสินค้าตัวอย่างก่อนสั่งผลิตจริง ควรให้โรงงานกระเป๋าผ้าทำสินค้าตัวอย่างมาเพื่อตรวจสอบว่าสามารถผลิตได้ตรงตามแบบที่ต้องการหรือไม่ สีเพี้ยน ลายปั๊ม ลายพิมพ์ สวยงามถูกต้องแค่ไหน
- วางแผนการจัดส่งและสต๊อกสินค้า ควรตกลงเวลาจัดส่งกับโรงงานผลิตกระเป๋าให้ชัดเจน และหากมีสินค้าชำรุดหรือเสียหายสามารถเปลี่ยนคืนได้ในกรณีใดบ้าง ควรตกลงกันให้เป็นลายลักษณ์อักษร ป้องกันปัญหาที่ตามมาภายหลัง
ควรเลือกหนังเทียมแบบใดเพื่อให้โรงงานผลิตกระเป๋าผ้าทำกระเป๋าหนังเทียม
- ประเภทของหนังเทียม ควรเลือกชนิดของหนังเทียมให้เหมาะสมกับการผลิตกระเป๋าแต่ละรูปแบบ โดยแบ่งประเภทของหนังเทียมได้ดังนี้
- Microfiber Leather เป็นหนังเทียมคุณภาพสูง ที่มีความใกล้เคียงหนังแท้มากที่สุดในกลุ่มหนังเทียม ยืดหยุ่นดี ไม่ลอกง่าย ทนทานสูง ราคาแพงกว่าชนิดอื่น แต่เหมาะกับงานคุณภาพสูง
- PVC (Polyvinyl Chloride) เป็นหนังเทียมที่แข็งแรง สามารถทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี มีราคาถูกกว่าหนัง PU แต่จะไม่ยืดหยุ่นเท่า PU จึงเหมาะกับกระเป๋าที่ใช้งานสมบุกสมบัน เช่น กระเป๋าเดินทาง
- PU (Polyurethane) เป็นหนังเทียมที่มีผิวสัมผัสดี ใกล้เคียงหนังแท้ สามารถยืดหยุ่นได้ดี จึงเหมาะกับกระเป๋าแฟชั่นที่ต้องการความหรูหรา อายุการใช้งานปานกลาง
- ความหนาของกระเป๋า ควรเลือกหนังเทียมที่ความหนา 0.9 – 1.2 มม. สำหรับใช้ทำกระเป๋าสะพายทั่วไป แต่หากทำเป็นกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าเป้ควรใช้ความหนา 1.2 มม. เพื่อความทนทาน
- ความทนทาน หากต้องการผลิตกระเป๋าหนังเทียมที่ใช้งานเป็นประจำควรเลือกกระเป๋าที่มีความทนทาน สามารถกันน้ำได้ ไม่ลอกง่าย และไม่เป็นคราบง่าย หากหนังเทียมที่ดัดหรือพับแล้วมีรอยชัดเจนไม่เหมาะสำหรับทำงานหนัก
หากใช้แนวทางในการเลือกโรงงานผลิตกระเป๋าผ้าเพื่อทำกระเป๋าหนังเทียมดังกล่าวจะช่วยให้สามารถเลือกโรงงานผลิตที่มีมาตรฐาน คุ้มค่า และมีคุณภาพอย่างแน่นอน